ข้อสอบปลายภาค
คำสั่งข้อสอบมีทั้งหมด
7
ข้อ ให้นักศึกษาทำทุกข้อ
ห้ามลอกกันเขียนคำตอบโดยใช้สำนวนเหมือนกันถือว่ามิใช่ความคิดของนักศึกษาเอง
ปรับให้ตกทั้งคู่ ข้อละ 10
คะแนน
1. กฎหมายทั่วไปกับกฎหมายการศึกษา
มีที่มาความเหมือนกันหรือต่างกันอย่างไร อธิบายพร้อมทั้ง ยกตัวอย่างประกอบอย่างย่อ ๆ
ให้ได้ใจความพอเข้าใจ.
ตอบ กฎหมายทั่วไปกับกฎหมายการศึกษา มีทั้งที่เหมือนกันและความต่างกันคือ กฎหมายทั่วไปนั้นจะเป็น กฎเกณฑ์ คำสั่ง หรือข้อบังคับที่ถูกตั้งขึ้นโดยรัฐหรือผู้มีอำนาจสูงสุดเพื่อใช้เป็นเครื่องมือสำหรับดำเนินการให้บรรลุเป้าหมายอย่างหนึ่งอย่างใดของสังคม
และมีสภาพบังคับเป็นเครื่องมือในการทำให้บุคคลในสังคมต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ คำสั่ง
หรือข้อบังคับนั้น ตัวอย่างเช่น การยื่นแสดงตนเพื่อลงบัญชีทหารกองเกินเมื่ออายุย่างเข้า 18 ปี และเข้ารับการตรวจคัดเลือกเป็นทหารเมื่ออายุ 21 ปี
กฎหมายการศึกษากฎหมาย คือ บทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องกับกฎหรือคำสั่งหรือข้อบังคับของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาที่สถาบันหน่วยงานผู้มีอำนาจได้ตราขึ้นและมีผลบังคับใช้ ตัวอย่างเช่น บุคคลมีสิทธิและโอกาสเสมอกันในการรับการศึกษาขั้นพื้นฐานไม่น้อยกว่าสิบสองปี
ที่รัฐต้องจัดให้อย่างทั่วถึง และมีคุณภาพโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย
2. รัฐธรรมนูญที่ว่าด้วยการศึกษา
มีสาระหลักที่สำคัญอย่างไร ในประเด็นอะไรบ้างที่เกี่ยวข้องกับ การศึกษา ยกตัวอย่างประกอบ พอเข้าใจ
(รัฐธรรมนูญตั้งแต่แต่ฉบับแรกถึงปัจจุบัน (พ.ศ.2550)
ตอบ สรุปสาระสำคัญ ของกฎหมายรัฐธรรมนูญ แต่ละฉบับ ที่เกี่ยวกับการศึกษา
พบว่า นับตั้งแต่ได้มีรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยขึ้นและมีการปรับปรุงแกไข้ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา
ได้มีวิวัฒนาการเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่เสรีภาพ การศึกษาอบรม ให้กับเด็กและเยาวชนให้เป็นผู้มีความสมบรูณ์ทั้งทางร่างกายจิตใจ
สติปัญญา คุณธรรมจริยธรรม โดยมีแนวทางในการจัดการศึกษา รัฐจะต้องจัดการศึกษาและสนับสนุนให้เอกชนจัดการศึกษาอบรมให้เกิดความรู้คู่คุณธรรมเช่นกันและจัดการศึกษาภาคบังคับให้เข้ารับการศึกษาอบรมโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย
สำหรับการศึกษาภาคบังคับ ต่อมาได้เพิ่มเติมจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ไม่น้อยกว่า 12 ปีรัฐจะต้องจัดอย่างทั่ว
ถึงและมีคุณภาพ พร้อมทั้งจัดให้มีกฎหมายการศึกษาแห่งชาติหรือเรียกชื่อว่า “พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติขึ้น”
3. พระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ
มีกี่มาตรา และมีความสำคัญอย่างไร
และประเด็นหรือมาตราใดที่ผู้ปกครองต้องปฏิบัติและต้องยึดถือปฏิบัติ
ตอบ พระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ 20 มาตรา มีความสำคัญคือเป็นพระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับที่ต้องการให้เด็กได้รับการศึกษาที่ดีและมีคุณภาพ มาตรา 6
ให้ผู้ปกครองส่งเด็กเข้าเรียนในสถานศึกษา
กฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติได้กำหนดให้บิดา มารดา
หรือผู้ปกครองมีหน้าที่จัดให้บุตรหรือบุคคลซึ่งอยู่ในความดูแลได้รับการศึกษาภาคบังคับจำนวนเก้าปี
โดยให้เด็กซึ่งมีอายุย่างเข้าปีที่เจ็ดเข้าเรียนในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานจนอายุย่างเข้าปีที่สิบหก
เว้นแต่จะสอบได้ชั้นปีที่เก้าของการศึกษาภาคบังคับ
จึงสมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการประถมศึกษา
เพื่อให้เหมาะสมและสอดคล้องกับกฎหมายดังกล่าว จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
4. ท่านเข้าใจว่า
หากมีใครเข้ามาปฏิบัติการสอนในโรงเรียนที่เปิดการสอนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน กรณีสอนทั้งปีที่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพครูนั้น
สามารถมาปฏิบัติการสอนได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้มีความผิดหรือบทกำหนดโทษอย่างไร ถ้าได้จะต้องกระทำอย่างไรมิให้ผิด
ตามพระราชบัญญัตินี้
ตอบ ตามมาตรา 46 ห้ามมิให้สถานศึกษารับผู้ไม่ได้รับใบอนุญาตเข้าประกอบวิชาชีพควบคุมใบอนุญาตในสถานศึกษาเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากคุรุสภา มิเช่นนั้นจะมีบทลงโทษต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
5. สมบัติ เป็นครูโรงเรียนแห่งหนึ่ง
ได้ประพฤติผิดกระทำทารุณกรรมต่อเด็กหรือเยาวชน หากเราพิจารณาตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก
พ.ศ. 2546
จะต้องทำอย่างไร และมีบทลงโทษอย่างไร
ตอบ มาตรา ๔๑
ผู้ใดพบเห็นหรือประสบพฤติการณ์ที่น่าเชื่อว่ามีการกระทำทารุณกรรมต่อเด็กให้รีบแจ้งหรือรายงานต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
พนักงานฝ่ายปกครอง หรือผู้มีหน้าที่คุ้มครองสวัสดิภาพเด็กตามมาตรา ๒๔เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่
พนักงานฝ่ายปกครอง หรือผู้มีหน้าที่คุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก ตามมาตรา ๒๔
ได้รับแจ้งเหตุ,ตามวรรคหนึ่ง หรือเป็นผู้พบเห็นหรือประสบพฤติการณ์ที่น่าเชื่อว่า
มีการกระทำทารุณกรรมต่อเด็กในสถานที่ใด ให้มีอำนาจเข้าตรวจค้นและมีอำนาจแยกตัวเด็ก
จากครอบครัวของเด็กเพื่อคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กโดยเร็วที่สุดการแจ้งหรือการรายงานตามมาตรานี้
เมื่อได้กระทำโดยสุจริตย่อมได้รับความคุ้มครองและไม่ต้องรับผิดทั้งทางแพ่ง
ทางอาญาหรือทางปกครองมาตรา ๔๒ การดำเนินการคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กตามมาตรา ๔๑
วรรคสอง ต้องรีบจัดให้มีการตรวจรักษาทางร่างกายและจิตใจทันที
ถ้าพนักงานเจ้าหน้าที่เห็นสมควรต้องสืบเสาะและพินิจเกี่ยวกับเด็กและครอบครัวเพื่อหาวิธีการคุ้มครองสวัสดิภาพที่เหมาะสมแก่เด็ก
ก็อาจส่งตัวเด็กไปสถานแรกรับก่อนได้หรือถ้าจำเป็นต้องให้การสงเคราะห์ก็ให้พิจารณาให้การสงเคราะห์ตามมาตรา
๓๓ และถ้าจำเป็นต้องให้การฟื้นฟูสภาพจิตใจก็ให้รีบส่งเด็กไปยังสถานพัฒนาและฟื้นฟู การส่งเด็กไปสถานแรกรับ
สถานพัฒนาและฟื้นฟู หรือสถานที่อื่นใดตามวรรคหนึ่ง
ระหว่างการสืบเสาะและพินิจเพื่อหาวิธีการการคุ้มครองสวัสดิภาพที่เหมาะสม
ให้กระทำได้ไม่เกินเจ็ดวัน แต่ในกรณีที่มีเหตุจำเป็นและสมควรเพื่อประโยชน์ของเด็ก
พนักงานเจ้าหน้าที่หรือพนักงานอัยการจะยื่นคำร้องขอต่อศาลตามมาตรา ๕
เพื่อมีคำสั่งขยายระยะเวลาออกไปรวมแล้วไม่เกินสามสิบวันก็ได้และจะมีบทลงโทษจำคุกไม่เกินสามเดือนหรือปรับไม่เกินสามหมื่น
6. ช่วงที่นักศึกษาไปทดลองสอนที่โรงเรียนเทอม
2
และในเทอมต่อไป นักศึกษาเข้าไปทดลองสอนจริง
นักศึกษาคิดว่าจะนำกฎหมายการศึกษาไปใช้โดยกำหนดคนละ 2 ประเด็นที่คิดว่าจะนำกฎหมาย ไปใช้ได้ พร้อมยกตัวอย่างประกอบ
ตอบ การที่ครูจะพานักเรียนออกนอกสถานศึกษาจะต้องมีใบขออนุญาตจากผู้ปกครองและ
ได้พบเห็นเด็กนักเรียนที่เสี่ยงต่อการกระทำผิดที่และครูก็ได้เยี่ยมเยียน ให้คำปรึกษา และแนะนำแก่ผู้ปกครองเกี่ยวกับเรื่องการอบรมสั่งสอนและเลี้ยงดูเด็กที่อยู่ในการกำกับดูแล
7. ให้นักศึกษาสะท้อนความคิดการใช้
เว็บล็อก (weblog)
ในการนำมาใช้จัดการเรียนการสอนวิชานี้ พอสังเขป
ตอบ การจัดการเรียนการสอนโดยใช้ เว็บล็อก (weblog)
นั้นถือว่าเป็นสิ่งที่ดีเพราะว่า
เราสามารถที่จะเรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลาและไม่จำเป็นต้องมานั่งเรียนอยู่ในห้องเพียงอย่างเดี่ยว
ครูและนักเรียนสามารถติดต่อสื่อสารกันได้โดยใช้ เว็บล็อก (weblog)
ซึ่งปัจจุบัน เว็บล็อก (weblog)
ถือได้ว่าเป็นสื่อการเรียนรู้อย่างหนึ่งที่นักเรียนนักศึกษาทุกคนต้องเรียนรู้